รีบอ่าน!! แชร์ไปได้บุญวิธีสร้าง"บุญบารมีให้กับตัวเอง"
ง่ายๆทำได้ที่บ้าน
เวลาถ้าเราทำบุญ
คนส่วนใหญ่มักนึกถึงการ ตักบาตรหรือเข้าวัดทำบุญ เป็นส่วนมาก
ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่มีเวลา ก็เลยเสียโอกาสในการสั่งสมบุญ บารมี
วันนี้จึงมีเรื่องมาเล่าให้ทุกๆท่านได้อ่านและพิจารณา
เผื่อจะได้แง่มุมใหม่ๆในการสร้างบุญกุศล สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลา เพื่อจะได้นำมาปฏิบัติอย่างง่ายๆ
เพื่อสั่งสมบุญบารมี มีดังนี้
1. หากระปุกออมสิน หรือ
บาตรพลาสติก ( ร้านสังฆทานต่างๆจะมีขาย
) หรือภาชนะที่สะดวก ในการหยอดเงิน นำมาวางไว้ที่ในห้องพระ หรือหิ้งพระ
สำหรับคนที่อยู่คอนโด หรืออพาร์ทเม้นต์ ถ้าไม่มีห้องพระ ให้หารูปพระ
มาติดที่ฝาผนังก็ได้
2. ทุกวันให้เราสละเวลา
เพียงวันละประมาณ 20-30 นาที สวดมนต์ไหว้พระเวลาไหนก็ได้ที่เราว่าง
เราสบายใจ เช้า สาย บ่าย เย็น หรือก่อนนอน โดยเริ่มจากบท
คำบูชาพระ -
อิมินาฯ...
คำบูชาพระรัตนตรัย
- อะระหังฯ...
นมัสการพระพุทธเจ้า
- นะโมฯ... (ระหว่างนี้ให้นำเงินมาจบเอาไว้ในมือ 1
บาท 5 บาท หรือแล้วแต่สะดวก)
กล่าวบูชาไตรสรณคมน์
- พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ฯ...
สวดบทพุทธคุณ
ธรรมคุณ สังฆคุณ - อิติปิโสฯ....
สวดบทพาหุงมหากา
(ถวายพรพระ) - พาหุงสะหัสฯ...
จากนั้นกลับมาสวดบท
พุทธคุณ อีก 9 จบ
หรือจะสวดเท่าอายุบวกหนึ่งก็ได้
3. จากนั้นตั้งจิตให้เป็นสมาธิสักระยะหนึ่ง
แล้วอธิษฐานจิตจนเสร็จ จึงนำเงินที่จบไว้ในมือ ใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ที่หิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชา
แต่อย่าลืม
แผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลทุกครั้งให้เจ้ากรรมนายเวร(ทำอย่างนี้ทุกวันอย่าได้ขาด)
4. หลังจากนั้น
เราก็จะได้บารมีครบถ้วน เพียงแค่สวดมนต์ไม่กี่นาที
และสิ่งเหล่านี้ก็จะสะสมในใจเราทีละน้อย เหมือนกับเราเก็บเงินวันละ บาท 10 วันก็ได้ 10 บาท
แต่ถ้าเราไม่ทำอะไร เราก็จะไม่ได้อะไรเลย แล้วเงินที่เราหยอดทุกวัน
ที่ได้จากการสวดมนต์ ก็เหมือนเราตักบาตรทุกวัน โดยมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
เมื่อมีโอกาศเข้าวัด หรือจะไปทำบุญตามสถานที่ต่างๆ เราก็นำเงินนั้นแหละไปทำบุญ
หยอดตู้ ใส่ซอง ทำให้จิตของเราติดอยู่กับบุญกุศล ทุกวัน
1. ทานบารมี =
ขณะที่เราสวดมนต์เสร็จ เราทำทานคือเอาเงินที่จบใส่ใน กระปุกออมสิน หรืออื่นๆ เป็น
ทานบารมี
2. ศีลบารมี =
ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ในขณะนั้นเราไม่ได้ทำบาปกรรมกับใคร มีศีลอยู่ในขณะที่สวดมี
ศีลบารมี
3. เนกขัมมบารมี =
ขณะที่เราสวดมนต์อยู่ จิตของเราปราศจาก นิวรณ์มารบกวนจิตใจ ถือว่าเป็นการบวชใจ
ถือว่าเป็น เนกขัมมบารมี
4. ปัญญาบารมี =
การสวดมนต์ทำด้วยความศรัทธา
ทำด้วยปัญญาที่เห็นว่ามันเป็นประโยชน์ช่วยฝึกฝนให้เกิดสติ มีสมาธิเป็น ปัญญาบารมี
5. วิริยะบารมี =
ถ้าเราไม่มีความเพียร เราก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นความเพียรเป็น วิริยะบารมี
6. ขันติบารมี=
มีความเพียรแล้ว ไม่มีความอดทน ความเพียรก็ตั้งอยู่ไม่ได้
เพราะฉะนั้นต้องมีความอดทน ความอดทนเป็น ขันติบารมี
7. สัจจะบารมี =
มีความเพียร มีความอดทนแล้ว และมีความจริงใจในการประพฤติปฏิบัติ ซึ่งความจริงใจคือ
สัจจะบารมี
8. อธิษฐานบารมี =
เมื่อเราสวดมนต์เสร็จ ทำสมาธิ ตั้งจิตอธิฐาน การอธิฐานเป็น อธิษฐานบารมี
9. เมตตาบารมี =
ใส่บาตร สวดมนต์เสร็จ ก็ต้องแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล การแผ่เมตตาเป็น เมตตาบารมี
10. อุเบกขาบารมี =
ขณะที่แผ่เมตตา เราต้องทำใจของเราให้มีเมตตา ต่อสัตว์ทั้งหลาย
ทำใจให้เป็นพรหมวิหาร 4 อุเบกขา วางเฉย อโหสิกรรม
กับบุคคลที่เราเคยล่วงเกินกันมา ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่ชอบใคร ไม่ชังใคร
ทำใจให้นิ่ง ทำจิตให้สงบ วางใจให้เป็นอุเบกขา เป็น อุเบกขาบารมี
ขอความมุ่งมั่นโปรดอยู่กับท่าน.ขออนุโมทนา
ณ ที่นี้ด้วย
loading...